บทที่ 7 การใช้งานระบบปฏิบัติการ windows 7 และเทคนิคพื้นฐานที่ควรรู้

บทที่ 7 การใช้งานระบบปฏิบัติการ windows 7 และเทคนิคพื้นฐานที่ควรรู้

แกดเจ็ตส์(Gadgets) คือ โปรแกรมเล็กๆที่สามารถนำมาวางไว้บนเดสก์ทอปเพื่อใช้งานตามคุณสมบัติของโปรแกรมแกดเจ็ตส์นั้นๆ

คอนโทรลพาแนล เปรียบเสมือนแผงควบคุมการทำงานซึ่งเป็นศูนย์รวมของโปรแกรมสำคัญต่างๆ ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าและเรียกใช้งาน

การตั้งเวลาปิดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถเข้าไปตั้งค่าในคอนโทรลพาแนลในส่วนของ Adminstrative Tools > Schedule tasks

การตั้งเวลาให้เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดเครื่องอัตโนมัติ สามารถทำได้ด้วยการตั้งค่าในไบออสที่สำคัญ ตัวโปรแกรมไบออสต้องมีฟังก์ชั่นสนับสนุนงานนี้ด้วย

แนวคิดการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ 

1.ควรจัดเก็บไฟล์ข้อมูลต่างๆแยกออกจากไฟล์โปรแกรม

2.ไม่ควรเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ที่ถูกสร้างขึ้นจากโปรแกรมติดตั้ง

3.ควรจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเพียงชุดเดียว

4.จัดระเบียบโฟลเดอร์ให้ใช้งานง่ายที่สุด

5.ให้ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่สื่อความหมายได้ดี

Windows Explorer เป็นโปรแกรมที่นำมาใช้จัดการไฟล์และโฟลเดอร์

Command Prompt ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ได้จัดเตรียมให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปใช้งานคำสั่งเพื่อโต้ตอบในแบบระบบปฏิบัติการดอสยุคก่อน ตัวอย่างคำสั่งบน Command Prompt เช่น dir,cls,date,time,ren,md,cd,rd และ copy เป็นต้น

คำสั่งเปลี่ยนทิศทางการรับข้อมูล ประกอบด้วย

1.การเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลไปยังเอาท์พุต ใช้สัญลักษณ์ > 

2.การเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลไปยังเอาท์พุตด้วยการต่อท้ายข้อมูลเดิม ใช้สัญลักษณ์>>

3.การเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลด้วยการรับข้อมูลจากไฟล์แทนใช้สัญลักษณ์<

แบบทดสอบท้ายบท

1.แกตเจ็ตส์(Gadgets) คืออะไร นำมาใช้ประโยชน์อย่างไร

ตอบ = คือ โปรแกรมเล็กๆที่สามารถนำมาวางไว้บนเดสก์ทอปเพื่อใช้งานตามคุณสมบัติของโปรแกรมแกดเจ็ตส์นั้นๆ

2.ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์จะมีส่วนที่เรียกว่าControl Panel อยากทราบว่ามีส่วนสำคัญต่อการใช้งานอย่างไร

ตอบ = คอนโทรลพาเนลเปรียบเสมือนแผงควบคุมที่คุณใช้ปรับแต่งวินโดส์ได้ทุกหน้าที่ เช่นการปรับแต่งเมาส์ การปรับแต่งคีย์บอร์ด การปรับแต่งการแสดงผล เป็นต้น

3.จงสรุปวิธีการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้สามารถเปิด/ปิดโดยอัตโนมัติ

ตอบ = -การตั้งเวลาปิดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถเข้าไปตั้งค่าในคอนโทรลพาแนลในส่วนของ               Adminstrative Tools > Schedule tasks

          -การตั้งเวลาให้เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดเครื่องอัตโนมัติ สามารถทำได้ด้วยการตั้งค่าใน                            ไบออสที่สำคัญ ตัวโปรแกรมไบออสต้องมีฟังก์ชั่นสนับสนุนงานนี้ด้วย

4.ไบออสคืออะไร มีส่วนสำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร

ตอบ = คือโปรแกรมเล็กๆที่ถูกเก็บไว้ในชิป ROM ทำหน้าที่ในการตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ บนเมนบอร์ดและมีส่วนสำคัญมากในการบู๊ตเครื่องเพราะไบออสจะคอยตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดหากอุปกรณ์ตัวไหนมีการทำงานผิดพลาดไบออสก็จะรายงานหรือส่งสัญญาณเสียงให้เราได้ทราบทันที ไบออสจะทำงานหลังจากมีการเปิดสวิทซ์ ทันที ที่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์โดยจะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ เช่น harddisk, disk drive,cd-rom, ram เป็นต้น

5.การถอดถอนโปรแกรมออกไปจากเครื่อง จะกระทำเมื่อใดและมีประโยชน์อย่างไร

ตอบ = เมื่อโปรแกรมไม่ได้ใช้งาน ทำให้เครื่องมีพื้นที่ว่างมากขึ้น

6.จงสรุปแนวคิดการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์มาให้พอเข้าใจ

ตอบ = การตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์นั้น สามารถตั้งชื่อได้ตามที่ต้องการว่า อยากจะใช้ชื่ออะไรเป็นชื่อของไฟล์ แต่ไม่ควรที่จะตั้งชื่อที่ยากต่อการจดจำ และไม่สัมพันธ์กับงานที่จัดเก็บ การตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์นั้นจะมีให้ตั้งทุกครั้งที่มีการสร้างไฟล์ใหม่ และเปลี่ยนชื่อไฟล์ เกณฑ์การตั้งชื่อในระบบวินโดวส์สามารถตั้งชื่อไฟล์ หรือโฟลเดอร์ได้

7.การคัดลอกแบบ copy กับ cut มีความแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ = การคัดลอกแบบ copy คือจะสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ที่เหมือนกับไฟล์เดิมที่เรา copy 

           การคัดลอกแบบ cut คือการย้ายไฟล์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

8.ตามปกติแล้ว ทำไมจึงไม่สามารถเปลี่ยนนามสกุลไฟล์บน Windows Explorer ได้ และถ้าหากจำเป็นต้องทำ จะต้องทำอย่างไร และสามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง

ตอบ = Windows Explorer ได้มีการตั้งค่าให้ซ้อนนามสกุลไฟล์เอาไว้ จึงทำให้ผ้ใช้ไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนนามสกุลได้

9.Command Prompt  บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์มีไว้เพื่ออะไร จงอธิบาย 
ตอบ = เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเกี่ยวกับระบบของเครื่องและการตั้งค่าที่ Control Panel ที่ไม่สามารถตั้งได้ ก็สามารถตั้งได้ ใน Command Promp

10.คำสั่งในการเปลี่ยนทิศทางการรับส่งข้อมูลบน Command Prompt มีอะไรบ้าง จงสรุปมาให้พอเข้าใจ
ตอบ = สำหรับสัญลักษณ์ที่ใช้สำหรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลไปยังเอาท์พุต 
      D: \test>type readme.txt > prn 
        การใช้คำสั่ง dir แสดงผลเก็บไว้ในไฟล์ชื่อ file1.txt ก็สามารถทำได้ดังนี้ 
      D:\test>dir > file.txt 
      การใช้คำสั่ง ver เพื่อให้ผลลัพธ์เก็บไว้ต่อจาก file1.txt ที่เคยมีอยู่ ก็สามารถพิมพ์ชุดคำสั่ง
      D:\test>ver>>file1.txt

บทที่9 การรักษาความปลอดภัยของระบบ

บทที่9 การรักษาความปลอดภัยของระบบ

แพล็ตฟอร์ม(Platform) หมายถึง สภาพแวดล้อมของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีความเท่ากันได้ และสามารถทำงานร่วมกันได้

การรักษาความปลอดภัยบนวินโดวส์แพล็ตฟอร์ม ประกอบด้วย

-การตั้งค่าความปลอดภัย

-การสำรองและกู้คืนข้อมูล

-การเปิด/ปิดการรับแจ้งข่าวสาร

-การตั้งค่าระดับการควบคุมบัญชีผู้ใช้

-การตั้งค่าการอัปเดทซอฟต์แวร์

การรักษาความปลอดภัยบน ios แพล็ตฟอร์ม ทางแอปเปิ้ลจะมี iCloud ไว้คอยบริการเพื่อ

-การค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องด้วย Find My iPhone

-การสำรองข้อมูลและเก็บรักษาบริการออนไลน์

-การอัปเดทซอฟต์แวร์

การรักษาความปลอดภัยบน Android แพล็ตฟอร์ม ประกอบด้วย

-การติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันโปรแกรมประสงค์ร้าย เช่น มัลแวร์ และไวรัสคอมพิวเตอร์

-การเลือกติดตั้งแอปจากสโตร์ที่น่าเชื่อถือ

-การใช้แอป Device Manager เพื่อช่วยติดตามอุปกรณ์

-การอัปเดทซอฟต์แวร์

เนื่องจากระบบ Android เป็นระบบเปิด จึงเลี่ยงต่อภัยคุกคามต่างๆมากกว่า ios ซึ่งเป็นระบบปิด

ความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน สำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์แท็บเล็ตหรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟนประกอบด้วย

-การตั้งล๊อคอัตโนมัติ

-การตั้งรหัสผ่าน

แบบฝึกหัดท้ายบท

1.แพล็ตฟอร์มหมายถึงอะไร จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ

ตอบ = หมายถึง สภาพแวดล้อมของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีความเท่ากันได้ และสามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น แพลตฟอร์มเอ็มเแสดอสบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียู 80486, ยูนิกส์ บนเครื่องซัน SPARC station, System 7 บนเครื่องแมคอินทอช Powerbook 180 เป็นต้น

2.จงสรุปการรักษาความปลอดภัยบนวินโดวส์ (windows) แพล็ตฟอร์มมาให้พอเข้าใจ

ตอบ = -การตั้งค่าความปลอดภัย

           -การสำรองและกู้คืนข้อมูล
           -การเปิด/ปิดการรับแจ้งข่าวสาร
           -การตั้งค่าระดับการควบคุมบัญชีผู้ใช้
           -การตั้งค่าการอัปเดทซอฟต์แวร์


3.จงสรุปการรักษาความปลอดภัยบนไอโอเอส (iOS) แพล็ตฟอร์มมาให้พอเข้าใจ
ตอบ =  ทางแอปเปิ้ลจะมี iCloud ไว้คอยบริการเพื่อ
-การค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องด้วย Find My iPhone
-การสำรองข้อมูลและเก็บรักษาบริการออนไลน์
-การอัปเดทซอฟต์แวร์


4.จงสรุปการรักษาความปลอดภัยบนแอนดรอยด์ (Android) แพล็ตฟอร์มมาให้พอเข้าใจ
ตอบ = -การติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันโปรแกรมประสงค์ร้าย เช่น มัลแวร์ และไวรัสคอมพิวเตอร์
           -การเลือกติดตั้งแอปจากสโตร์ที่น่าเชื่อถือ
           -การใช้แอป Device Manager เพื่อช่วยติดตามอุปกรณ์
           -การอัปเดทซอฟต์แวร์

เนื่องจากระบบ Android เป็นระบบเปิด จึงเลี่ยงต่อภัยคุกคามต่างๆมากกว่า ios ซึ่งเป็นระบบปิด



5.ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานสำหรับการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนมีอะไรบ้าง
ตอบ = -การตั้งล๊อคอัตโนมัติ
           -การตั้งรหัสผ่าน



6.อุปกร์คอมพิวเตอร์ที่นักเรียนใช้งานอยู่ ไ่ว่าจะเป็นพีซี แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ลำพังตัวนักเรียนมีระบบป้องกันอะไรบ้างให้กับเครื่อง
ตอบ = 1.ตั้งรหัสผ่าน 2.แสกนลายนิ้วมือ 3.ตั้งล็อคอัตโนมัติ



7.นักเรียนคิดว่า Find My iPhone ซึ่งเป็นแอปติดตามมือถือที่ทางแอปเปิ้ลเปิดบริการแก่ผู้ใช้อุปกรณ์จากค่ายแอปเปิ้ล มีประโยชน์หรือไม่ อย่างไร
ตอบ = เพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพน์สิน และ ระบุตำแหน่งอุปกรณ์ที่ใช้ ทำให้ง่ายต่อการค้นหา



8.ระหว่างระบบปฏิบัติการ IOS และ Android นักเรียนมีความพอใจต่อระบบปฏิบัติการตัวใดเป็นพิเศษ เพราะอะไร จงบอกเหตุผลประกอบ 
ตอบ = IOS เพราะมีระบบความปลอดภัยภายในเครื่องที่ดีกว่า และมีปัญหาทางตัวระบบน้อย



9.ระบบปฏิบัติการแบบเปิดกับแบบปิด คืออะไร จงอธิบาย
ตอบ = 1.ระบบปฏิบัติการแบบปิด    เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์ ระบบหนึ่งระบบใดหรือยี่ห้อหนึ่ง ยี่ห้อ  ใดเท่านั้น ตัวอย่างสร้างระบบปฏิบัติการขึ้นมา เพื่อใช้กับไมโครโปรเซสเซอร์ประเภทเดียวไม่สามารถนำ  ไปใช้กับคอมพิวเตอร์ประเภทอื่นๆ ได้ เช่น ระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่อง Macintosh และเครื่องใน  ตระกูล Apple ซึ่งใช้ซีพียู ยี่ห้อ Motorola ไม่สามารถนำระบบปฏิบัติการนี้มาใช้กับเครื่องไมโคร  คอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไปได้ 
2.ระบบปฎิบัติการแบบเปิด เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์ ทุกระบบ และทุกยี่ห้อ



10.เพราะเหตุใด Android จึงมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามมากกว่า IOS 
ตอบ = เพราะแอนดรอยเป็นระบบเปิด จึงทำให้ผู้มีความรู้ในการเข้าถึงข้อมูลสามารถเข้าถึงข้อมูลได้

บทที่8 โปรแกรมยูทิลิตี้

บทที่8 โปรแกรมยูทิลิตี้

โปรแกรมยูทิลิตี้ เป็นโปรแกรมประเภทหนึ่งที่ถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุน และเพิ่มเติมขีดความสามารถของโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น

ตัวอย่างโปรแกรมยูทิลิตี้ที่น่าสนใจ เช่น

cpu-z

mem test

WinRAR

PC Tools Registry Mechanic

ความหมายของโปรแกรมยูทิลิตี้

            โปรแกรมยูทิลิตี้จัดเป็นโปรแกรมประเภทหนึ่งของซอฟต์แวร์ระบบที่ถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการทำงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโปรแกรมที่ใช้อยู่ขณะนั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดยิ่งขึ้น โปรแกรมน้าจสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ตามแต่ผู้สร้าง เช่นเพื่อบำรุงรักษาโปรแกรม เพื่องานสำรองและกู้คืนข้อมูล หรือเพื่อปรับจูนระบบ
ในระบบปฏิบัติการจำเป็นต้องมีโปรแกรมดังกล่าว และมักมีขีดความสามารถค่อนข้างจำกัด สำหรับโปรแกรมที่ติดมากับระบบวินโดวส์ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถก็จำเป็นที่จะต้องโหลดโปรแกรมยูทิลิตี้จากอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน เพราะในปัจจุบันมีโปรแกรมฟรีให้ได้โหลดใช้กันอย่างมากมาย

ยูทิลลิตี้สำหรับป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
              โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ จัดเป็นโปรแกรมยูทิลิตี้ชนิดหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แฝงมากับไฟล์ต่างๆ โดยเฉพาะในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โปรแกรมป้องกันไวรัสจำเป็นต้องติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องเพราะการใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการคัดลอกไฟล์ข้อมูล การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นช่องทางให้ติดไวรัสโดยง่าย
     
แนวทางการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
              ปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดๆที่สามารถป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็มีแนวทางอยู่หลายประการด้วยกัน เช่น

1.หลีกเลี่ยงการใช้สื่อจากแหล่งอื่นในการบูตเครื่อง
2.ตั้งค่าระดับความปลอดภัยในโปรแกรมประยุกต์เพื่อป้องกันไวรัสมาโคร
3.การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส
4.ไม่ควรเปิดไฟล์เอกสารที่มีไวรัสแฝงอยู่
5.ควรตรวจสอบสื่อบันทึกข้อมูลก่อนใช้งานเสมอ
6.ป้องกันการบันทึกข้อมูลด้วยการ Write Protect
7.หมั่นสำรองข้อมูล

การสำรองข้อมูลระบบ
               ผู้ใช้งานทั่วไป คงเคยประสบปัญหากับกรณีระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่ใช้งานอยู่นั้นมีอาการรวน ทำให้เราต้องตัดสินใจล้างเครื่องและติดตั้งโปรแกรมประยุกต์ต่างๆใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียเวลาโดยเฉพาะระบบที่มีการติดตั้งโปรแกรมประยุกต์ต่างๆเป็นจำนวนมาก แต่ถ้ามีการสำรองข้อมูลระบบเก็บเอาไว้ ย่อมทำให้เราไม่ต้องมาติดตั้งโปรแกรมใหม่ทั้งหมด แต่จะทำด้วยการกู้ข้อมูลระบบให้กลับคืนมา ณ จุดที่เราเคยสำรองข้อมูลเอาไว้

แบบฝึกหัดท้ายบท

1.โปรแกรมยูทิลิตี้คืออะไร จงอธิบาย
ตอบ =  โปรแกรมยูทิลิตี้จัดเป็นโปรแกรมประเภทหนึ่งของซอฟต์แวร์ระบบที่ถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการทำงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโปรแกรมที่ใช้อยู่ขณะนั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดยิ่งขึ้น โปรแกรมน้าจสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ตามแต่ผู้สร้าง เช่นเพื่อบำรุงรักษาโปรแกรม เพื่องานสำรองและกู้คืนข้อมูล หรือเพื่อปรับจูนระบบ

2.จงสำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานส่วนตัวของนักเรียนว่ามีการติดตั้งโปรแกรมยูทิลิตี้ตัวใดบ้าง ด้วยการระบุเป็นข้อๆ
ตอบ  = 1.cpu-z
            2.WinRAR

3.จงสรุปหน้าที่การทำงานโดยย่อของโปรแกรมcpu-z
ตอบ =  เป็นโปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบเสปกอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในเครื่อง


4.จงสรุปหน้าที่การทำงานโดยย่อของโปรแกรม mem test
ตอบ = เป็นโปรแกรมตรวจสอบความจำหลักในเครื่องว่าพร้อมใช้งานหรือไม่


5.จงสรุปหน้าที่การทำงานโดยย่อของโปรแกรม PC Tools Registry Mechanic
ตอบ = เป็นโปรแกรมถอดถอนไฟล์ที่ไม่จำเป็นและค่าติดตั้งต่างๆที่ไม่ได้ใช้งาน registry ออกไปจากระบบ


6.จงสรุปหน้าที่การทำงานโดยย่อของWin RAR
ตอบ = เป็นโปรแกรมบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลง


7.แนวทางการป้องกันไวรัส ประกอบด้วยอะไรบ้าง จงสรุปมาให้พอเข้าใจ
ตอบ = 1.หลีกเลี่ยงการใช้สื่อจากแหล่งอื่นในการบูตเครื่อง
           2.ตั้งค่าระดับความปลอดภัยในโปรแกรมประยุกต์เพื่อป้องกันไวรัสมาโคร
           3.การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส
           4.ไม่ควรเปิดไฟล์เอกสารที่มีไวรัสแฝงอยู่
           5.ควรตรวจสอบสื่อบันทึกข้อมูลก่อนใช้งานเสมอ
           6.ป้องกันการบันทึกข้อมูลด้วยการ Write Protect
           7.หมั่นสำรองข้อมูล



8.อยากทราบว่านักเรียนเคยใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสตัวใดบ้าง จงระบุเป็นข้อๆและมีความชื่นชอบโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวใดมากที่สุด เพราะอะไร
ตอบ = 1.NOD32 Antivirus 2.Avast Antivirus
           ชื่นชอบโปรแกรมNOD32 Antivirus เพราะในส่วนของ โปรแกรม NOD32 Antivirus นั้นมีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย คุณสมบัติ NOD32 สามารถช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานเป็นอย่างดีทั้งเรื่องของการสแกนไวรัสอย่างรวดเร็ว ไม่ส่งผลกระทบต่อโปรแกรมอื่นๆ แถมยังรู้หน้าที่ ที่จะต้องซ่อนตัวเองไปทำงานในโหมดเงียบ (Silent Mode) ในขณะที่คุณกำลังเล่นเกมส์ อย่างเมามันส์ ไม่ออกมารบกวนการเล่นเกมส์ของคุณให้รำคาญ เน้นการใช้งานง่ายเป็นหลัก

บทที่ 6 การติดตั้งไดรเวอร์และงานปรับแต่งพื้นฐาน

บทที่ 6 การติดตั้งไดรเวอร์และงานปรับแต่งพื้นฐาน

โปรแกรมไดรฺเวอร์

                  การทำงานของคอมพิวเตอร์จะต้องมีการติดต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์ 

อินพุต/เอาต์พุตพื้นฐาน อย่าง คีย์บอร์ดและจอภาพ แต่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์

ในความเปนจริงแล้ว มีมากมายและค่อนข้างหลากหลาย ดังนั้นในการที่จะให้คอมพิวเตอร์นั้นสามารถ

เข้าไปจัดการ ควบคุมและสั่งงานอุปกรณ์เหล่านั้นได้ จึงจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมไดรเวอร์

ไดรเวอร์(Drivers)

                 หมายถึงตัวขับอุปกรณ์ จัดเป็นโปรแกรมชนิดหนึ่ง ซึ่งปกติจะแนบมาพร้อมกับอุปกรณ์ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ เช่น ไดร์เวอร์เมนบอร์ด  ไดร์เวอร์เครื่องพิมพ์ และไดร์เวอร์เครื่องสแกนเนอร์ เป็นต้น หน้าที่หลักๆของไดร์เวอร์ก็คือ ช่วยให้ระบบปฏิบัติการสามารถเข้าไปติดต่อและจัดการอุปกรณ์ I/O ได้ การที่ได้ติดตั้งโปรแกรมไดร์เวอร์นั้น ก็เพื่อระบบปฏิบัติการสามารถเข้าไปติดต่อเพื่อจัดการกับอุปกรณ์ I/O ได้นั่นเอง

ในการออกแบบระบบปฏิบัติการที่ดี จะทำการแยกส่วนควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ออกไปจากตัวระบบปฏิบัติการต่างหาก โดยโปรแกรมที่แยกออกมานี้ จะทำหน้าที่ติดต่อและควบคุมอุปกรณ์แต่ละตัวที่เป็นของตัวเองเฉพาะ เมื่ออุปกรณ์ตัวใดถูกเรียกใช้งานก็จะติดต่อผ่านอุปกรณ์นั้น แล้วตัวขับอุปกรณ์ก็จะเข้าไปติดต่อกับอุปกรณ์ดังกล่าวผ่านตัวควบคุมอุปกรณ์ชนิดนั้นโดยตรง จึงทำให้เราสามารถใช้งานได้ในที่สุด

การตรวจสอบอุปกรณ์ใน Device Manager

กกกกกกกระบบปฏิบัติการ Windows ได้จัดเตรียมศูนย์รวมของเหล่าอุปกรณ์ที่ได้เชื่อมต่อเข้ากับหน่วยระบบ ซึ่งเรียกว่า Device Manager ดังนั้น Device Manager  จึงเป็นส่วนสำคัญในการจัดการกับอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั่นเอง เราสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆได้ที่ Device Manager รวมถึงการเปิด/ปิด การใช้งานอุปกรณ์ และตวรสอบการขัดแย้งกันของตัวอุปกรณ์

สำหรับวิธีการเข้าไปยัง Device Manager มีดังนี้

กกกกกกกกกกก1. ดับเบิ้ลคลิกที่ ไอคอน  Computer จากนั้นคลิกเลือกที่ System properties

2. คลิกเลือกที่ Device Manager

3. ภายในศูนย์ควบคุมของ Device Manager เต็มไปด้วยอุปกรณ์ฮาร์แวร์ต่างๆ ที่ได้เชื่อมต่อเข้ากับหน่วยระบบ

กรณีที่ไม่รู้จักอุปกรณ์ใด ที่หน้ารายการนั้นจะมีเครื่องหมาย ?

ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรมไดร์เวอร์เมนบอร์ด

กกกกกกกกกกก1. นำแผ่นไดร์เวอร์เข้าไปยังเครื่องขับ  จากนั้นให้คลิกที่เมนู Run เพื่อสั่งให้ทำงาน

กกกกกกกกกกก2. จากนั้นจะปรากฏเมนูติดตั้งมาให้ ให้คลิกเลือกที่โปรแกรมที่ต้องการติดตั้ง จากนั้นคลิก Install

กกกกกกกกกกก3. จากนั้นคลิกที่ Express เพื่อการติดตั้งแบบเร็ว แล้วคลิกปุ่ม Next คลิกปุ่ม Accept เพื่อยืนยัน

กกกกกกกกกกก4. เมื่อติดตั้งเสร็จกุดปุ่ม Finish  จากนั้นเครื่องจะถามว่าต้องการบูตเครื่องใหม่หรือไม่ให้คลิกที่ปุ่ม Yes

การปรับตั้งค่าความละเอียดของจอภาพ

กกกกกกกในปัจจุบันจอภาพที่ใช้งานนั้นล้วนเป็นแบบ LCD ทั้งหมด และยังมีจอภาพที่มีสัดส่วนปกติ (4:3) กับจอภาพที่เป็นแบบจอกว้าง (16:9)  ภายหลังจากการติดตั้งไดร์เวอร์การ์ดจอภาพแล้ว ระบบปฏิบัติการจะปรับตั้งค่าความละเอยีดจภาพภายใต้ขีดความสามารถที่สูงสุดของจอภาพโดยอัตโนมัติ ในขณะเดียวกันอัตรารีเฟรชบนจอภาพ LCD ก็สามารถใช้ค่าปกติ กล่าวคือ ทั้งค่าความละเอียดและอัตรารีเฟรชของจอภาพยุคใหม่ในปัจจุบันที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ windows 7 แทบไม่จำเป็นต้องเข้าไปปรับค่าใดๆแล้ว

ขั้นตอนแสดงการปรับตั้งค่าความละเอียดของจอภาพ

กกกกกกกกกกก1. คลิกขวาที่พื้นที่ว่างของเดสก์ท็อป จากนั้นเลือกรายการ Screen resolution

    2. ที่หัวข้อ Resolution ให้คลิกที่ลิสต์บ็อกซ์จะปรากฏค่าความละเอียดต่างๆ ซึ่งตามปกติแล้วค่าดังกล่าวจะถูกตั้งค่าที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถจะเปลี่ยนแปลงค่านั้นได้เช่นกัน

การปรับเปลี่ยนพื้นหลัง (Desktop Background)

กกกกกกกบนเดสก์ท็อป สามารถเปลี่ยนพื้นหลังให้สวยงามน่าใช้ตามความชื่นชอบของแต่ละคนได้ โดยภาพที่นำมาใช้สามารถเลือกจากแกลลอรี่ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว เช่น แกลลอรี่ภาพสถาปัตยกรรม และภาพวิวธรรมชาติ เป็นต้น หรืออาจจะนำภาพที่ชื่นชอบส่วนตัวในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือบนอินเทอร์เน็ตมาใช้ได้อีกด้วย

ขั้นตอนการตั้งค่าการเปลี่ยนพื้นหลัง

          1. คลิกขวาที่พื้นที่ว่างหน้าเดสก์ท็อป เลือกรายการ Personalize จากนั้นเลือก Background 

ก2. จากนั้นคลิกเลือกรูปที่ต้องการ 

การพักหน้าจอด้วยการตั้งภาพเคลื่อนไหว

กกกกกกกในการที่พักเครื่องไว้โดยไม่ปิดเครื่อง หากภาพเดิมๆค้างอยู่บนจอภาพเป็นเวลานานๆ อาจทำให้จอภาพเสื่อมลงได้ แต่ผลกระทบดังกล่าวจะเป็นการทำให้จอภาพมีอายุการใช้งานที่สั้นลงนั่นเอง  ซึ่งทางที่ดีควรมีการตั้งค่าเพื่อให้มีการปิดหน้าจออัตโนมัติเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และยืดอายุการใช้งานของหน้าจออีกด้วย

แบบฝึกหัดท้ายบท

1. โปรแกรมไดร์เวอร์คืออะไร มีบทบาทสำคัญอย่างไร  จงอธิบาย

ตอบ = ไดร์เวอร์ (Driver) หมายถึงตัวขับอุปกรณ์ จัดเป็นโปรแกรมชนิดหนึ่ง ปกติจะแนบมาพร้อมกับอุปกรณ์ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ เช่น ไดร์เวอร์เมนบอร์ด ไดร์เวอร์เครื่องพิมพ์ เป็นต้น หน้าที่หลักๆของไดร์เวอร์คือช่วยให้ระบบปฏิบัติการสามารถเข้าไปติดต่อและจัดการกับอุปกรณ์อินพุตเอ้าท์พุต

2. มานะบอกกับมีนาว่า ฉันติดตั้ง Windows แล้วไม่เห็นจะต้องติดตั้งไดร์เวอร์อะไรให้ยุ่งยากเลยคอมพิวเตอร์ก็ใช้งานอุปกรณ์ต่างๆได้ตามปกติ หากนักเรียนเป็นมีนา จะอธิบายให้มานะเข้าใจได้อย่างไร

ตอบ = อธิบายให้ฟังว่า “โปรแกรมไดร์เวอร์เป็นโปรแกรมที่มีไว้เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้ จึงจำเป็นที่จะต้องติดตั้งโปรแกรมไดร์เวอร์ลงไปในเครื่องด้วย

3. ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ตรงส่วนใดที่ใช้เป็นศูนย์รวมของเหล่าอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อเข้ากับหน่วยระบบ

ตอบ =  Device Manager

4. การปรับตั้งค่า Refresh Rate บนจอภาพ LCD มีความจำเป็นหรือไม่ อย่างไร จงอธิบาย

ตอบ = โดยปกติแล้วหลังจากการติดตั้งไดร์เวอร์จอภาพ ระบบปฏิบัติการจะปรับตั้งค่าความละเอียดของจอภาพภายใต้ขีดความสามารถสูงสุดอยู่แล้ว ดังนั้นการปรับตั้งค่าขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคน

5. การตั้ง Screen Saver บนจอภาพ LCD มีส่วนช่วยถนอมจอภาพโดยตรงหรือไม่ อย่างไรจงอธิบาย

ตอบ =  มีส่วนช่วยเพราะ การทำเช่นนี้เป็นการตั้งค่าเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ปิดจออัตโนมัติเมื่อไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้ใช้ และการทำเช่นนี้ เป็นการยืดอายุการใช้งานของจอภาพอีกด้วย
 

อ้างอิงเนื้อหาจาก หนังสือเรียนวิชา ระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2128-2002

บทที่ 1เรื่อง ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ

สรุปท้ายบทที่ 1

บทที่ 1

เรื่อง ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ

ความหมายของคอมพิวเตอร์ 

กกกกกกกหมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ

คอมพิวเตอร์ 

กกกกกกกหมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ

ประเภทของคอมพิวเตอร์

 กกกกกกกที่จำแนกตามขีดความสามารถ ประกอบด้วย

1.ซูเปอร์คอมพิวเตอร์

1234567เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ และมีขีดความสามารถสูงที่สุดในบรรดาคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย ภายในสามารถรองรับโปรเซสเซอร์ได้นับพันตัว ทำให้มีพลังการประมวลผลสูงมา เหมาะกับงานคำนวณที่มีความซับซ้อนสูงอย่างงานด้านทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การพยากรณ์ และงานวิจัยนิวเคลียร์ ขีดความสามารถของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์สูงมากถึงขนาดรับคำสั่งได้มากถึงหลายล้านคำสั่งต่อวินาที

รูปที่ 1.1 ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์

2.เมนเฟรมคอมพิวเตอร์

กกกกกกกเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ รองจากซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ นิยมนำมาใช้งานตามภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เช่นธนาคาร บริษัทประกันภัย และสายการบิน  เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถนำมาใช้ประมวลผลแบบรวมศูนย์ ด้วยการจัดตั้งเป็นเครื่องแม่ข่ายเพื่อบริการแก่เครื่องลูกข่ายที่มีการเชื่อมต่อนับพันเครื่องสำหรับความเร็วในการประมวลผลของเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ จะมีความเร็วในระดับพันล้านคำสั่งต่อวินาที

รูปที่ 1.2 เมนเฟรมคอมพิวเตอร์

3.มินิคอมพิวเตอร์

1234567เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง มีขีดความสามารถต่ำกว่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มักนิยมนำมาใช้กับธุรกิจขนาดกลางทั่วไป เช่น โรงพยาบาล โรงแรม และตามโรงงานอุตสาหกรรม แต่ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์เมนเฟรมมีหลายขนาดด้วยกัน โดยเฉพาะเมนเฟรมขนาดเล็กจึงทำให้ชื่อ มินิ กลายเป็นอดีตไป  และคอมพิวเตอร์แบบเมนเฟรมยังได้รับความนิยมสูงกว่าระดับมินิ อีกด้วย

รูปที่ 1.3 มินิคอมพิวเตอร์

4.เวิร์กสเตชั่น

1234567รูปลักษณ์ภายนอกที่เรียกกันว่าเครื่องสถานีวิศวกรรมนั้นแลดูคล้ายกับเครื่องพีซีแต่เวิร์กสเตชั่นไม่ใช่พีซีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ สมรรถนะหรือขีดความสามารถสำหรับเครื่องเวิร์กสเตชั่นจะประมวลผลได้เร็วมาก เหมาะกับงานคำนวณทางวิศวกรรม งานออกแบบ งานกราฟฟิก และงานทางด้านการแพทย์ ระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้ในเครื่องเวิร์กสเตชั่นนั้นคือ  Unix

รูปที่ 1.4 เวิร์กสเตชั่น

5.ไมโครคอมพิวเตอร์

รูปที่ 1.5 ไมโครคอมพิวเตอร์

องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย

1.ฮาร์ดแวร์

1234567หมายถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง มีลักษณะทางกายภาพที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ เช่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ชิป และชิ้นส่วนประกอบเชิงกลไกต่างๆ ที่จะทำงานประสานงานกันเพื่อให้เกิดการประมวลผล การจัดเก็บ และการเผยแพร่ข่าวสาร ฮาร์ดแวร์ในระบบคอมพิวเตอร์ยังถูกแบ่งออกอีกเป็น 5 ประเภทด้วยกัน ประกอบด้วย 

123456789011.1 อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล (Input Device) เช่น คีย์บอร์ด เม้าส์ เครื่องสแกนเนอร์ และไมโครโฟน เป็นต้น

123456789011.2 หน่วยความจำหลัก (Main Memory)  เช่น หน่วยความจำแรม  หน่วยความจำรอม เป็นต้น

123456789011.3 หน่วยประมวลผลกลาง (Central Orocessor Units : CPU) จัดเป็นหน่วยที่สำคัญที่สุดของคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่รับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล แล้วนำมาประมวลผลตามคำสั่ง เพื่อส่งไปยังหน่วยแสดงผล

123456789011.4 อุปกรณ์แสดงผล (Output Devices) เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ และลำโพง เป็นต้น

123456789011.5 หน่วยเก็บข้อมูลภายนอก (External Storage) คืออุปกรณ์ที่นำมาใช้บันทึกหรือจัดเก็บข้อมูล/โปรแกรม เพื่อสำรองข้อมูลเก็บไว้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ เทป แผ่นซีดี/วีดีโอเป็นต้น

รูปที่ 1.6 ฮาร์ดแวร์

2.ซอฟแวร์

1234567หมายถึงโปรแกรมชุดคำสั่งที่บอกคอมพิวเตอร์ว่าต้องทำอะไร โดยตัวโปรแกรมจะถูกเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะถูกแปลภาษาเครื่องที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ คอมพิวเตอร์ก็จะนำเอาคำสั่งนี้ไปควบคุมอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ให้ทำงาน  ซอฟต์แวร์ถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ 

123456789012.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) เช่น Windows , Unix และ Linux 

123456789012.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เช่น ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ โปรแกรมบัญชี โปรแกรมเงินเดือน โปรกแรมควบคุมสินค้าคงคลัง

รูปที่ 1.7 ซอฟต์แวร์

3.ข้อมูล

1234567ข้อมูลในที่นี้หมายถึง ข้อมูลดิบที่เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับความจริงทั้งหลาย อาจอยู่ในรูปของตัวเลข หรือรูปภาพ เช่น ชื่อ ที่อยู่ อายุ ระดับชั้น เป็นต้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล

รูปที่ 1.8 ข้อมูล

4.กระบวนการทำงาน

1234567คือขั้นตอนการทำงานเพื่อให้ผู้ใช้รับทราบว่า จะมีวิธีการจัดการหรือปฏิบัติการกับข้อมูลเหล่านั้นอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อดำเนินเก็บข้อมูลที่ได้มา

รูปที่ 1.9 กระบวนการทำงาน

5.บุคลากร

กกกกกกกหมายถึงบุคลากรทางคอมพิวเตอร์ เช่นบุคลากรทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาโปรแกรม ก็คือ นักวิเคราะห์ระบบและโปรแกรมเมอร์

รูปที่ 1.10 บุคลากร

คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย

1.ความเร็ว

1234567คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วมาก สามารถทำงานให้สำเร็จได้ในพริบตาซึ่งความรวดเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์มีผลต่อธุรกิจในปัจจุบันอย่างมาก ทั้งในด้านลูกค้า และผู้ให้บริการ

2.ความน่าเชื่อถือ

กกกกกกกการทำงานของคอมพิวเตอร์มีความน่าเชื่อถือสูงมาก มีอัตราการผิดพลาดต่ำ ผิดจากมนุษย์ เมื่อมีการทำงานหลายๆชั่วโมง ร่างกายก็จะมีการอ่อนล้า

3.ความเที่ยงตรงและแม่นยำ

1234567คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลข้อมูล และคำนวณผลลัพธ์ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ กล่าวคือ หากมีข้อมูลชุดเดียวกัน หากนำมาผ่านกระบวนการประมวลผลครั้งแล้วครั้งเล่าก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม

4.จัดเก็บข้อมูลได้ปริมาณมาก

1234567เทคโนโลยีในยุคนี้ล้ำไปมาก ฮาร์ดดิสก์ตัวหนึ่งๆ สามารถจุข้อมูลได้มากถึงระดับเทอราไบต์ (TB) แล้ว เพื่อรองรับข้อมูลที่ใช้ในปัจจุบันที่มีความจุสูง อย่างเช่นข้อมูลมัลติมีเดีย ข้อมูลสำคัญต่างๆ

5.ความสามารถในการสื่อสารและเครือข่าย

1234567ในปัจจุบันนอกจากจำนำมาใช้งานส่วนตัวแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อแบบเครือข่ายได้ เช่น เครือข่ายแลน เพื่อแบ่งปันใช้งานทรัพยากรบนเครือข่าย

สื่อบันทึกข้อมูลประกอบด้วย

สื่อบันทึกข้อมูลแบบแม่เหล็ก 

1234567ได้แก่ เทปแม่เหล็ก ดิสเกตต์ และฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น

สื่อบันทึกข้อมูลแบบแสง 

1234567ได้แก่ สื่อออปติคัลดิสก์ต่างๆ อันประกอบด้วย

       สื่อที่อ่านได้อย่างเดียว เช่น แผ่น CD-ROM, DVD-ROM, BD-ROM

       สื่อที่อ่านและเขียนได้จนเต็มแผ่น เช่น แผ่น CD-R, DVD-R, BD-R และ

      สื่อที่อ่านและเขียนทับข้อมูลเดิมได้ เช่น แผ่น CD-RW, DVD-RW, BD-RE

สื่อบันทึกข้อมูลแบบแฟลช 

1234567 ได้แก่ แฟลชไดรฟ์ และการ์ดหน่อยความจำชนิดต่างๆ

อุปกรณ์ต่อพ่วง 

1234567หมายถึงอุปกรณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านกานเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มขยายขีดความสามารถให้กับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่ง  อุปกรณ์ต่อพ่วง ยังแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ

1234567กกกก1.อุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อการป้อนข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ ไมโครโฟน และสแกนเนอร์

1234567กกกก2.อุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องขับออปติคัลดิสก์แบบภายนอก เครื่องอ่านการ์ดหน่วยความจำแบบภายนอก และฮาร์ดดิสก์แบบเชื่อมต่อภายนอก

1234567กกกก3. อุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อการจัดเก็บ เช่น  ฮาร์ดดิสก์แบบพกพา  เครื่องขับดีวีดีแบบภายนอก รวมถึงเครื่องอ่านการ์ดหน่วยความจำแบบภายนอก เป็นต้น

ความหมายของระบบปฎิบัติการ 

กกกกกกกระบบปฏิบัติการ (Operating System) คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้คอมพิวเตอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์ของระบบปฏิบัติการก็คือจะกำหนดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปฏิบัติงานกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ

1234567สำหรับในอดีตที่ได้มีการพัฒนาโปรแกรมระบบปฏิบัติการรุ่นต่างๆ เป็นต้นมา จึงทำให้เกิดระบบปฏิบัติการในยุคต่างๆ ดังต่อไปนี้

ระบบปฎิบัติการยุคที่ 1 

1234567จัดอยู่ในยุคที่ไม่มีระบบปฎิบัติการไว้ใช้งาน ผู้ควบคุมเครื่องจะต้องป้อนคำสั่งที่เป็นภาษาเครื่องเข้าไปโดยตรง

ระบบปฎิบัติการรุ่นที่ 2 

1234567เป็นยุคที่เริ่มใช้ระบบปฎิบัติการประมวลผลแบบแบตช์

ระบบปฎิบัติการรุ่นที่ 3 

1234567เป็นยุคที่เริ่มนำระบบปฎิบัติการที่ประมวลผลแบบมัลติโปรแกรมมิ่ง ไทม์แชริ่ง มัลติโปรเซสซิ่ง และระบบเรียลไทม์มาใช้

ระบบปฎิบัติการรุ่นที่ 4 

1234567เป็นยุคที่เริ่มมีระบบปฎิบัติการบนไมโครคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับงานประมวลผลแบบงานเดียว (MS-DOS) และมัลติทาสกิ้ง (Windows) รวมถึงระบบปฎิบัติการที่ใช้งานบนระบบเครือข่าย

หน้าที่ของระบบปฎิบัติการ ประกอบด้วย

1234567กกกก1.การติดต่อกับผู้ใช้

1234567กกกก2.การควบคุมดูแลอุปกรณ์

1234567กกกก3.การจัดสรรทรัพยากร